191 จำนวนผู้เข้าชม |
เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา IRDP จัดเวทีเสวนาพิเศษหัวข้อ “รัฐวิสาหกิจ: จากบอร์ดรูม…สู่ผลลัพธ์” เพื่อถอดบทเรียนความสำเร็จของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หลังผ่านพ้นวิกฤติและฟื้นฟูกิจการได้อย่างน่าชื่นชม โดยชี้ให้เห็นว่า “การปลดล็อคข้อจำกัดจากสถานะรัฐวิสาหกิจ” เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้องค์กรมีความคล่องตัวและตัดสินใจได้ทันท่วงที
ศ. ดร. วรภัทร โตธนะเกษม กรรมการผู้จัดการ IRDP ระบุว่า การพ้นจากสถานะรัฐวิสาหกิจทำให้คณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูของการบินไทยสามารถแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างและอุปสรรคด้านระเบียบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับรัฐวิสาหกิจอีก 52 แห่งในการยกระดับขีดความสามารถการแข่งขัน
ดร. ปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ อดีตประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ การบินไทยฯ เน้นว่า ความอยู่รอดอย่างยั่งยืนของรัฐวิสาหกิจต้องมาจาก ระบบบริหารที่คล่องตัว เริ่มที่หน่วยงานกำกับดูแลซึ่งควรทบทวนกฎระเบียบให้ยืดหยุ่น และเสริมสมรรถนะบุคลากร ให้ทันต่อบริบทที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว พร้อมกันนี้ การคัดเลือกกรรมการ ต้องโปร่งใส มีทักษะหลากหลาย และยึดหลักธรรมาภิบาล โดยควรมีการสัมภาษณ์เชิงสมรรถนะเพื่อประเมิน “คุณค่า” ที่จะสร้างให้องค์กร
นอกจากนี้ คุณชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร การบินไทยฯ ยกตัวอย่างว่า เมื่อครั้งยังเป็นรัฐวิสาหกิจ การจัดซื้อเครื่องบิน 1 ลำใช้เวลา 3–4 ปี ซึ่งใช้เวลานาน แต่หลังพ้นสถานะรัฐวิสาหกิจ กระบวนการเหลือประมาณ 9 เดือน ขณะเดียวกัน มาตรการลดต้นทุน เช่น การปรับลดจำนวนบุคลากรครั้งใหญ่ก็ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากไม่ติดข้อจำกัดเดิม
สำหรับก้าวต่อไป ดร. ปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ อดีตประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ การบินไทยฯ แนะนำว่า การบินไทยต้องรักษาบุคลากรคุณภาพ ตัดวงจร “ระบบฝากฝัง/เส้นสาย” และ ไม่ย้อนกลับสู่รูปแบบการบริหารแบบรัฐวิสาหกิจ ทั้งในระดับบอร์ดและผู้บริหาร เพื่อคงความคล่องตัวและประสิทธิภาพในระยะยาว
“บทสรุปจากการถอดบทเรียนของการบินไทยฯ” หากอยากให้ “องค์กรรัฐวิสาหกิจ” ยังคงอยู่และดำเนินต่อไป รัฐวิสาหกิจต้อง ปลดล็อคความคล่องตัว ทั้งเชิงกฎระเบียบและการบริหารจัดการ พร้อมกับคณะกรรมการมีศักยภาพ โปร่งใส และทำงานเชิง
กลยุทธ์ เพื่อสร้างการเปลี่ยนผ่านจากข้อจำกัดเดิม นำไปสู่การสร้างการแข่งขันได้ ไม่ว่าจะเป็นเพิ่มการประเมินเชิงลึก Corporate KPIs ในด้านการบริหารจัดการเพื่อไม่ให้เกิดความแทรกแซงในการเข้าทำงานในทุกระดับ พร้อมทั้งการสร้างระบบประเมินที่มีประสิทธิภาพ เพื่อประเมินผลทั้งคณะกรรมการและผู้บริหาร นำไปสู่การเป็นรัฐวิสาหกิจที่สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส พร้อมก้าวสู่การเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างคุณค่าให้แก่สังคมไทยต่อไป